10 อ ย่ างเช็คก่อนขับรถเดินทางไกล

ในช่วงก่อนหยุดย าว หล า ยต่อหล า ยคน มักจะเลือ กการเดินทางกลับบ้านด้วยการขับรถยนต์ซึ่งเป็นวิ ธีการที่สะดวกที่สุดถึงแม้ว่าจะต้องแลกกับรถที่ติดขัดอ ย่ างมหาศาล ด้วยระยะการเดินทางในช่วงหยุดย าว การดูแลและบำรุงรั ก ษ ารถยนต์ก่อนการเดินทางไกล ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรกระทำอ ย่ างยิ่ง เ พ ร า ะจะช่วยให้การเดินทางเป็นไปด้วยความราบรื่นตลอ ดเส้นทางการเดินทางทั้งขาไปและกลับ วันนี้มีเทคนิคง่ายๆ เพียง 10 ขั้นตอนที่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเองดังนี้

1.เช็ครอบตัวรถ

เริ่มต้นจากการเดินดูสภาพรอบๆรถยนต์ดูก่อน ว่ามีส่วนไหนไม่สมบูรณ์บ้าง บางส่วนอาจยังไม่เป็นอันตรายหากต้องเดินทางไกล เช่น รอยขีดข่วน หรือรอยบุบต่างๆ แต่ถ้าหากรุนแรงถึงขนาดเริ่มหลุดออ กจากตำแหน่งปกติแล้ว ไม่สมบูรณ์ ไม่ควรทนฝืนวิ่งต่อ อาทิ สเกิร์ตหลุดห้อยออ กมา แผ่นรองใต้ห้องเครื่องข า ดเ พ ร า ะโดนกระแทกจนห้อยมาเกือบติดพื้น อาจเสี่ยงต่อ การเกิดอุ บั ติ เ ห ตุระหว่างทางได้หรือแม้กระทั่งกับเพื่อนร่วมทางได้ ควรได้รับการดูแลแก้ไขก่อนการเดินทางไกล

2. เช็คล้อและย าง

ลองไล่ตรวจดูล้อและย างว่าปกติไหม เริ่มจากไล่ดูสภาพภายนอ ก ย างมีรั่วแบน หรือบวมหรือไม่ หากมีควรเปลี่ยนทันที หรือถ้าไม่สามารถเปลี่ยนก่อนเดินทางได้ ควรนำล้ออะไหล่มาเปลี่ยนแทน ต่อมาลองดูดอ กย างว่าสึกลึกลงไปถึงระดับที่ควรเปลี่ยนแล้วหรือยัง จะมีเครื่องหมายสามเหลี่ยมอยู่ด้านข้างดอ กย าง ดอ กย างจะมีผลต่อเดินทางไกล ในการยึดเกาะถนนและการเบรกกระชั้นชิดมาก ย าง 1 ชุด สามารถวิ่งได้อ ย่ างน้อยๆ 40,000 กิโลเมตรหรืออ ย่ างต่ำ 2-3 ปี เมื่อเช็คสภาพภายนอ กของย างเสร็จ อ ย่ าลืมเช็คแรงดันลมย างต ามสเป็คที่รถระบุ การขับรถทางไกลควรเติมลมย างให้แข็งกว่าปกติซัก 2-3 ปอนด์ นอ กจากนี้ ท่านควรนำล้ออะไหล่มาเติมลมย างก่อนเดินทางไกลด้วย

3.เช็คระบบหล่อเย็น

ระบบหล่อเย็นจะช่วยรั ก ษ าอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์ในทุกสภาพการใช้งาน เมื่อเครื่องยนต์ทำงานและร้อนขึ้น ระบบหล่อเย็นจะดึงความร้อนออ กไปส่วนหนึ่งทำให้เครื่องยนต์ไม่ทำงานในสภาพที่อุณหภูมิที่สูงเกินไปนั่นเอง

เราสามารถเช็คระบบหล่อเย็น หรือ coolant ได้ง่ายๆ โดยสามารถตรวจระดับน้ำย าหล่อเย็นได้โดยมองจากภายนอ ก ระดับน้ำหล่อเย็นควรอยู่ในระดับมากกว่า Min ขึ้นไป สามารถหาซื้ อน้ำย าหล่อเย็นได้จากศูนย์บริการหรือจากอู่ซ่อมรถยนต์ที่อยู่ใกล้บ้าน

4.เช็คน้ำมันเบรก

น้ำมันเบรกจะช่วยหล่อลื่นส่วนต่างๆ ในระบบเบรก เนื่องจากต้องมีการเ สี ยดสีของส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ลูกสูบ ลูกย าง ภายในแม่ปั๊มเบรก ลูกปั๊มเบรก ถ้าหากน้ำมันเบรกรั่ว หรือไม่เพียงพอ จะเกิดการสึกหรอ จนกระทั่งไม่สามารถเบรกได้ หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า เบรกแตก

โดยมากกระบอ กเก็บน้ำมันเครื่องจะอยู่บริเวณตอนหน้าของห้องเครื่อง เราสามารถสังเกตได้จากภายนอ กว่าน้ำมันเบรกข า ดหรือไม่ โดยควรให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า Min หากน้ำมันเบรกเริ่มน้อยลง มีความเป็นไปได้ถึงผ้าเบรกเริ่มสึกหรอลง ควรตรวจสอบว่าผ้าเบรกยังเหลือเพียงพอหรือไม่

5.เช็คน้ำมันเครื่อง

ส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งสำหรับเครื่องยนต์ นั่นคือ น้ำมันเครื่อง ถือเป็นส่วนสำคัญเป็นอ ย่ างมาก โดยให้ดึงก้านเช็คน้ำมันเครื่องในขณะที่ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเพื่อเช็คระดับน้ำมันเครื่อง ระดับน้ำมันเครื่องควรอยู่ไม่ต่ำกว่าระดับที่ก้านระบุไว้ โดยสามารถเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มลงไปได้หากน้อยกว่าที่ระบุ นอ กจากนี้ น้ำมันเครื่อง ควรทำการเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 1 หมื่นกิโลเมตร เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และถนอมส่วนประกอบต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นลูกสูบ เสื้อสูบ ข้ อต่อต่างๆ เช็คน้ำมันเครื่อง

6.เช็คระบบปรับอากาศ

สภาพอากาศในเมืองไทย อากาศร้อนถึงร้อน มากโดยส่วนใหญ่ การเตรียมความพร้อมให้ระบบปรับอากาศสามารถทำความเย็นได้ต ามปกติถือเป็นสิ่งที่ควรดูแลเป็นอ ย่ างมาก โดยมากระบบปรับอากาศจะเริ่มอุดตันจากการไม่ได้ดูแลเรื่องกรองแอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้รถมีกลิ่นและไม่เย็นอ ย่ างที่ควรจะเป็น ถ้าเป็นไปได้ ควรเปลี่ยนกรองแอร์ทุกๆ 1 หมื่นกิโลเมตรเช่นกัน จะทำให้แอร์เย็นและอากาศในรถสดชื่นยิ่งขึ้น ทั่้งนี้ การเปิดกระจกขณะขับรถ มีส่วนทำให้กรองแอร์ตันและสกปรกเร็วยิ่งขึ้น

7.เช็คระบบไฟฟ้า ไฟหน้าและไฟเบรก

หลังสต าร์ทรถ ลองเช็คดูหน้าปัดรถว่ามีไฟเตือนอะไรขึ้นปกติหรือเปล่า โดยปกติ เมื่อบิดกุญแจไปที่ Ignition mode จะมีไฟเตือนระบบต่างๆขึ้น และเมื่อสต าร์ทรถเรียบร้อยไฟเตือนเหล่านี้จะดับไปเอง

สัญญาณไฟหลักๆที่จะเตือน

ไฟเตือนแบตเตอรี่

ไฟเตือนถุงลม ABS

ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง

หากรถท่าน มีอาการไฟดังกล่าวขึ้น อ ย่ าได้นิ่งนอนใจควรรีบเข้าศูนย์บริการใกล้บ้าน เ พ ร า ะหากเกิดรถขัดข้ องกลางทางจะทำให้เ สี ยเวลามากกว่าเดิมอ ย่ างแน่นอน แถมยังมีสิทธิ์เกิดอันตรายทั้งคนขับและรถยนต์มากยิ่งขึ้น

8.เช็คเส้นทาง และเตรียมแผนที่ให้พร้อม

เส้นทางที่ดี จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางและทำให้วางแผนการเดินทางได้ถูกต้อง รวมถึงอาจต้องคอยตรวจสอบข่าวสารเส้นทางจาก จส.100 เผื่อไว้ในกรณีที่เกิดอุ บั ติ เ ห ตุ ณ เส้นทางที่เดินทางจะได้ตัดสินใจวางแผนการเดินทางได้ใหม่

9.เช็คความพร้อมของคนขับ

เรื่องสำคัญสุดท้าย คือ การตรวจสอบสภาพของตัวผู้ขับเองก่อนการขับเองทุกครั้งก่อนการเดินทาง หากเกิดอาการง่วงในขณะขับ ควรแวะหาที่พักต ามปั้มเพื่อแวะพัก หรือถ้าหากไม่สามารถหาปั้มแวะพักได้ ควรพกน้ำดื่ มหรือ กาแฟจิบระหว่างเดินทางเพื่อย ร ร เ ท าความง่วง รวมถึงหากสามารถเปลี่ยนคนขับรถได้ ก็จะช่วยย ร ร เ ท าความเมื่อยล้าจากการเดินทางระยะไกลได้เป็นอ ย่ างดี

10.เตรียมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินไว้เสมอ

ติดเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินไว้ในรถเสมอเมื่อต้องเดินทางไกล ท่านสามารถตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินได้ที่นี่

สุดท้ายแล้ว 10 ขั้นตอนง่ายๆนี้ สามารถตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง แต่ที่สำคัญที่สุด ขับรถต้องใจเย็น มีสติ และมีน้ำใจให้เพื่อนร่วมทาง เพียงเท่านี้ การเดินทางไกลก็จะปลอ ดภั ยถึงที่หมายด้วยความสุขใจของคนที่รออ ย่ างแน่นอน

ที่มา autospinn