แตงกวาเป็นผักที่ได้รับความนิยมมาก นิยมนำมารับประทานเคียงกับน้ำพริกต่าง ๆ ลาบ อาหารจานเดียว อ ย่ างข้าวผัด ข้าวมันไก่ หมูแดง หมูกรอบ สลัดผัก ก็จะมีแตงกวาประกอบอยู่ด้วยเสมอ เพราะเป็นผักที่มีน้ำมาก จึงช่วยในการผ่ อ นคล า ยความเผ็ดได้เป็นอ ย่ างดี และยังช่วยแก้เลี่ยนในอาหารได้เป็นอ ย่ างดีอีกด้วย
แตงกวาถือเป็นไม้ผลที่ปลูกง่ายเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรามีหลากหล า ยวิ ธีในปลูกให้แตงกวาได้ผล ดี วันนี้จึงขอนำเสนออีกหนึ่งวิ ธีในการปลูกแตงกวาโดยปลูกในกระสอบและทำค้างให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของผลให้ผลสวยและด กค่ะ
วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1. แกลบ
2. ต้นกล้าแตงกวา
3. กระสอบปุ๋ ย
4. ปุ๋ ยคอ ก
5. ดินสำหรับปลูก
6. ไม้ไผ่
7. ล ว ด
วิ ธีการทำ
1. เริ่มขั้ น ต อ นแรกด้วยการตัด กระสอบปุ๋ ยด้านขวางออ กครึ่งหนึ่งแล้วนำมาพับปากถุงไว้โดยใช้กระสอบ 6 กระสอบ นำดินสำหรับปลูกและแกลบมาผสมกันแล้วใส่ลงในกระสอบจนเต็ม
2. นำดินสำหรับปลูกและแกลบมาผสมกันแล้วใส่ลงในกระสอบจนเต็ม แล้วทำการเจาะรูให้ทั่วกระสอบให้น้ำสามารถระบายได้ดีไม่ขัง
3. จากนั้นให้นำต้นกล้าแตงกวามาลงปลูกในกระสอบอ ย่ างเบามือร ะ วั งอ ย่ าให้รากข า ด แล้วทำการรดน้ำต ามจนชุ่ม
4. เมื่อเวลาผ่านไป 7 วัน จะพบว่าต้นแตงกวาเริ่มเติบโตใบและลำต้นใหญ่ขึ้นก็สามารถเริ่มทำค้างเพื่อเตรียมให้ต้นเ ลื้ อ ยได้เลยค่ะ
5. สำหรับการทำค้างให้ใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกแล้วทำการมัดเป็นจั่วค้ำระหว่าง 2 กระสอบทำเป็นเสาหลักไว้ แล้วจึงค่อยนำไม้ที่เหลือมาพาดเป็นแนวเหมือนทำหลังคา แต่ละจุดให้มัดด้วยล ว ดให้แน่น ดังรูป
6. เมื่อเวลาผ่านไป 14 วัน ให้ทำการใส่ปุ๋ ยคอ กในทุกกระสอบปลูกกระสอบละ 1-2 กำมือ เพื่อบำรุงดินและต้นเตรียมออ กดอ กออ กผล
7. เมื่อเวลาผ่านไป 20 วันก็จะพบว่าแตงกวาเริ่มเ ลื้ อ ยไปต ามค้างที่เตรียมไว้อ ย่ างสวยงามและมีดอ กแตงกวาออ กมาให้เห็นแล้ว
8. เมื่อเวลาผ่านไป 28-30 วัน ก็จะพบว่ามีผลแตงกว่าอ่อนเล็กๆเริ่มออ กมาให้เห็นแล้วค่ะ โดยผลแตงกวานี้จะย้อยลงมาต ามแ ร งโน้มถ่วงและห้อยเทลงมาต ามค้างที่เราตั้งไว้
9. เและเมื่อเวลาผ่านไป 35 วัน ผลแตงกวก็โตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยจะสังเกตกว่าการทำค้างแตงกวาแบบนี้จะเหมาะกับการปลูกแตงกว่าเพราะได้ลูกสวยต้นแตงกวาได้รับแสงและอาหารเต็มที่ ทำให้ได้แตงกวาลูกอวบย าวโดยไม่ต้องใส่ปุ๋ ยมากค่ะ
การปลูกแตงกวาในกระสอบและทำค้างแบบนี้นอ กจากจะช่วยให้แตงกวาลูกสวยและด กแล้วยังช่วยล ดวั ช พื ชและศั ต รู พื ชได้ดีทีเดียว
ที่มา medthai postnoname
